วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประเภทของไข่มุก

ประเภทของไข่มุก article
           ไขมุก เครื่องประดับเงิน gemstone'ไข่มุก' สามารถใช้ได้ทุกโอกาส ทุกสถานที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นงานกลางวัน หรืองานทุกงานยามค่ำคืน และสามารถสวมเครื่องประดับไข่มุกกับเครื่องแต่งกายทุกชุด ทุกแบบได้อย่างเหมาะสมงดงามอีกด้วย

   ประเภทของไข่มุก มี 2 ประเภท คือ ไข่มุกธรรมชาติ (Natural Pearl) และไข่มุกเลี้ยง (Cultured Pearl) โดยที่ไข่มุกธรรมชาตินั้นถือว่าหาได้ยากมากแล้วในปัจจุบัน โดยทั่วไปจะซื้อขายกันเป็นน้ำหนักหน่วยกะรัต ส่วนไข่มุกเลี้ยงจะขายกันโดยวัดขนาดของมุกใช้หน่วยเป็นมิลลิเมตร แหล่งกำเนิดที่สำคัญของไข่มุกเลี้ยง คือ ญี่ปุ่น จีน และทะเลใต้




 
-


 ไข่มุกธรรมชาติ (Natural Pearl)    
    ไข่มุกธรรมชาติเป็นไข่มุกที่เกิดจากการที่มีวัสดุชิ้นเล็กๆ เช่น เม็ดทราย หรือหิน เล็ดลอดเข้าสู่ภายในของเปลือกหอยโดยความบังเอิญ หรือจากธรรมชาติกระทำ จากนั้นตัวหอยจะเกิดความระคายเคืองภายในตัวเอง โดยกลไกลของตัวหอยจะปกป้องและสร้างชั้นของ เนเคอร์ (
nacre) เพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมนั้นให้มีความหนาซ้อนกันมากขึ้นเรื่อยๆ การซ้อนของชั้นเนเคอร์ จะมีลักษณะเป็นชั้นคล้ายกับหัวหอมล้อมรอบวัสดุแปลกปลอมที่อยู่ตรงกลางไข่มุก ธรรมชาติจะมีรูปร่างที่หลากหลายขึ้นอยู่กับรูปทรงดั้งเดิมของวัสดุแปลกปลอม ที่เข้าไป ไข่มุกธรรมชาติมักได้รับการพิจารณาว่าเป็นไข่มุกที่หายากและค่อนข้างแพง โดยทั่วไปมักซื้อขายกันเป็นน้ำหนักหน่วยกะรัต แหล่งกำเนิดที่สำคัญของไข่มุก คือ อ่าวเปอร์เซีย ศรีลังกา ออสเตรเลีย ตาฮิติ และทะเลใต้

   ไข่มุกเลี้ยง (Cultured Pearl)
    ไข่มุกเลี้ยงมีลักษณะของการกำเนิดเช่นเดียวกันกับไข่มุกธรรมชาติ แต่เป็นกรรมวิธีที่เกิดจากมนุษย์เป็นผู้ทำ โดยการที่ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องมือค่อยๆ เปิดฝาเปลือกหอยออกและจากนั้นนำวัสดุชิ้นเล็ก เช่นลูกปัดกลม ใส่ลงไปภายในและจากนั้นก็นำหอยไปเลี้ยง โดยคอยดูแลสภาพแวดล้อม และความสะอาดของเปลือกหอย เมื่อเวลาผ่านไปวัสดุแปลกปลอมนั้นจะถูกเคลือบด้วยชั้นเนเคอร์ ซึ่งความหนาของชั้น เนเคอร์นี้จะขึ้นอยู่กับชนิดของเปลือกหอยที่ถูกสร้างขึ้นและชนิดของแหล่งน้ำ ที่หอยนั้นอาศัยอยู่ และระยะเวลาของวัสดุที่อยู่ภายในเปลือกหอยก่อนการเก็บเกี่ยว หากชั้นเนเคอร์มีการเพิ่มความหนาขึ้นก็จะทำให้คุณภาพหรือความหนาของไข่มุก เพิ่มขึ้นด้วย มุกเลี้ยงส่วนใหญ่มักซื้อขายกันโดยวัดขนาดเป็นมิลลิเมตร แหล่งกำเนิดที่สำคัญของไข่มุกเลี้ยงคือ ญี่ปุ่น จีน และทะเลใต้
  

ประเภทของไข่มุกแบ่งตามแหล่งกำเนิด
 
ไข่มุกน้ำจืด (Freshwater Perl)ไข่มุกน้ำจืด เครื่องประดับเงิน thaisilvergem 
ไข่มุก น้ำจืดจะพบได้ในบริเวณชายหาดและแม่น้ำทั่วๆ ไปทุกแห่งในโลก สามารถเพาะเลี้ยงได้ง่ายในประเทศจีน, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทย แต่ด้วยความแวววาวที่ด้อยกว่ามุกน้ำเค็มมุกน้ำจืดจึงมีราคาที่ถูกกว่า ประกอบด้วยรูปร่างลักษณะที่หลากหลายและสีสันทำให้มันเป็นที่นิยมอย่างมากใน หลายปีที่ผ่านมา
ไข่มุกน้ำจืดจะมองดูเหมือนไข่มุกอะโกย่า มาก แต่ราคาของไข่มุกน้ำจืดนั้นจะถูกกว่าไข่มุกอะโกย่าถึง 1/5 ของราคาไข่มุกอะโกย่า ไข่มุกน้ำจืดสามารถสร้างได้หลากหลายสีมาก แต่สีที่นิยมทำกันจะมี สีขาว, ชมพู, ส้ม และสีที่อ่อนๆ
 ถ้ากำลังมองหาไข่มุกที่ราคาไม่แพง สีสันสวยงาม และรูปร่างกลมสวย ไข่มุกน้ำจืดจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก
ไข่มุกอะโกย่า เครื่องประดับเงิน thaisilvergem


ไข่มุกอะโกย่า (Akoya Pearl)
       อะโกย่าเป็นไข่มุกชั้นดีที่พบในประเทศญี่ปุ่น และเป็นไข่มุกที่แวววาวที่สุด เมื่อเทียบกับไข่มุกประเภทอื่นๆ
       ไข่ มุกอะโกย่า จะมีดูเหมือนไข่มุกน้ำจืดมาก แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบใกล้ๆกันแล้ว ก็จะเห็นถึงความแตกต่างชัดเจน นั่นคือ ไข่มุกอะโกย่าจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า, ผิวเรียบกว่า, รูปร่างกลมกว่า และมีความเปล่งประกายแวววายมากกว่าไข่มุกน้ำจืด




มุกขาวทะเลใต้ (
White SouthSeaPearl)
ไข่มุกทะเลใต้ เครื่องประดับเงิน thaisilvergem

        เป็นไข่มุกที่มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากว่าไข่มุกประเภทนี้จะใช้ หอยนางรม ชื่อว่า pinctada maxima ซึ่ง เป็นหอยนางรมที่มีขนาดใหญ่กว่า หอยนางรมที่ผลิตไข่มุกน้ำจืด และไข่มุกอะโกย่า เนื่องจากขนาดตัวหอยนางรมที่ใหญ่จึงทำให้ไข่มุกมีขนาดใหญ่ ตามไปด้วย และอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ไข่มุกประเภทนี้แพงคือ หอยนางรมประเภทนี้จะค่อนข้างหาได้ยาก และค่อนข้างอ่อนไหวต่อสิ่งรอบข้างทำให้ การผลิตไข่มุกของหอยนางรมชนิดนี้ทำได้ยากมาก



ไข่มุกตาฮิติ เครื่องประดับเงิน thaisilvergem

ไข่มุกตาฮิติ (Tahitian Pearl)

        มุก ตาฮิติเป็นมุกขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นมุกที่มีความสวยงามและมีสีสันที่พิเศษคือสีเทาอ่อน สีดำ จนไปถึงสีเขียวและสีม่วง ด้วยขนาดและสีสันที่แปลกแตกต่าง ทำให้มุกตาฮิติมีราคาสูงมาก








มุกมาบิ (Mabe Pearl)   
มุกมาบิ คือไข่มุกครึ่งซีกที่เติบโตอยู่กับเปลือกหอยมุก มันจะไม่เติบโตอยู่ในตัวหอยมุก จึงทำให้มีลักษณะเป็นเพียงครึ่งซีก เหมาะที่จะนำมาทำต่างหูและแหวนที่ด้านหลังแบนและเรียบ
  
-  






 คำแนะนำ ระมัดระวัง อย่านำ ไข่มุก เข้าใกล้สารเคมีทุกชนิด เช่น น้ำหอม ผงซักฟอก เป็นต้น ถ้าจะทำความสะอาดก็ให้ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าจนสะอาดดี ใช้ผ้านุ่มๆ ซับให้แห้ง เพียงเท่านี้ไข่มุกของคุณก็จะคงความงดงาม เปล่งประกายแวววาวนานขึ้น

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น